Thermage คือเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิว ปรับหน้าเรียวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา ทั้ง U.S. FDA และ อย.ไทย เป็นเครื่องยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยร่องลึก หรือมีไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า มีเหนียง รวมถึงคนที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้นค่ะ
สำหรับคนที่มีความสนใจเกี่ยวกับ Thermage ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติม อยากรู้ว่า Thermage ช่วยยกกระชับผิวได้อย่างไร เหมาะ-ไม่เหมาะกับใครบ้าง มีอันตรายหรือมีผลข้างเคียงอย่างไร ทำส่วนไหนได้บ้าง เจ็บไหม ? สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อด้านล่าง ได้เลยค่ะ
Thermage คืออะไร ?
Thermage เป็นเครื่องมือที่ช่วยยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจน โดยใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุหรือเรียกว่า RF (Radio Frequency) ซึ่งปล่อยจำนวนพลังงานแบบขั้วเดียวในลักษณะเป็นก้อนพลังงานขนาดใหญ่ ลงไปในผิวหนังชั้นบนถึงผิวหนังชั้นไขมัน ความลึกที่ประมาณ 4.3 mm
เมื่อ Thermage ส่งพลังงานความร้อนลงไปใต้ผิว ความร้อนจะทำให้เกิดการกระชับหรือการหดตัวของคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังดูตึง ดูแน่นขึ้น ผิวเรียบเนียน รูขุมขนดูเล็กลง ริ้วรอยจางลง พร้อมทั้งช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณแก้ม เหนียงและลำคอ ทำให้ใบหน้าดูเรียว มีกรอบหน้าชัดขึ้น
ทำความเข้าใจโครงสร้างชั้นผิวหนัง ก่อนทำ Thermage
เพื่อช่วยให้เข้าใจการทำงานของ Thermage ต่อโครงสร้างผิวหนังได้มากขึ้น ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักโครงสร้างชั้นผิวหนังในเบื้องต้นซึ่งจะประกอบด้วย 3 ชั้นผิว ดังนี้
โครงสร้างชั้นผิวหนัง 3 ชั้น
ผิวหนังชั้นที่ 1: ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ผิวที่เราสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ อยู่ด้านบนสุด
มีหน้าที่ปกป้องผิวจากสารพิษ แบคทีเรีย และการสูญเสียน้ำ
ผิวหนังชั้นที่ 2 : ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นที่มีความหนา และมีความยืดหยุ่น มีองค์ประกอบหลักคือ คอลลาเจน และ อิลาสติน ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น ช่วยให้ผิวมีสุภาพดี ดูอ่อนเยาว์ เส้นใยเหล่านี้จะถูกตรึงไว้ด้วยสารที่ลักษณะคล้ายเจล หรือสาร hyaluronic acid ซึ่งมีความสามารถในการจับน้ำได้ดี และช่วยรักษาปริมาตรของผิวเอาไว้อีกด้วย
ผิวหนังชั้นที่ 3 : ชั้นไขมัน (Subcutaneous) ชั้นไขมัน จะอยู่ในสุดของชั้นผิวหนัง จำนวนของเซลล์ไขมันที่อยู่ในชั้นไขมันจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละส่วนของร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้นการกระจายตัวของไขมันยังมีความแตกต่างกันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายอีกด้วย
Thermage เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวที่ปล่อยพลังงานได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) จึงช่วยกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลักการทำงานของ Thermage ?
เมื่ออายุมากขึ้นการผลิตคอลลาเจน อิลาสติน และความสามารถในการจับกับน้ำของไฮยาลูรอนก็ลดลง ทำให้ผิวขาดความกระชับ ไม่ยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยได้ง่าย โดยมีสาเหตุมาจากการใช้ชีวิตประจำวันและปัจจัยภายนอกอื่น ๆ เช่น แสงแดด การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ที่มีผลต่อระดับคอลลาเจน และ อิลาสติน
แล้ว Thermage สามารถช่วยยกกระชับผิว และลดริ้วรอย ได้อย่างไร ? จะขออธิบายหลักการทำงานของ Thermage ตามลำดับ ดังนี้ ค่ะ
- Thermage จะส่งผ่านพลังงานความร้อนคลื่นวิทยุ ลงในผิวชั้นบนจนถึงผิวชั้นไขมัน พลังงานความร้อนที่ถูกส่งจากไปจะทำให้คอลลาเจนหดตัวลงทันที และทำการจัดเรียงตัวใหม่
- เมื่อคอลลาเจนมีการจัดเรียงตัวใหม่ จะช่วยให้ผิวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ตามไปด้วย ส่งผลทำให้ผิวตึง มีความแน่น ผิวเรียบเนียนและยกกระชับขึ้น สามารถเห็นผลได้หลังจากทำเพียงครั้งเดียว ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ และเห็นผลชัดเจนในเดือนที่ 6
Thermage เหมาะกับใครบ้าง ?
- คนที่ต้องการ ยกกระชับผิวหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก
- คนที่ต้องการ ลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม ใต้คาง เหนียง
- คนที่มีปัญหา ผิวหย่อนคล้อย บริเวณใบหน้า คอ หน้าท้อง ต้นแขน หลังมือ
- คนที่มีปัญหา เซลลูไลท์ บริเวณต้นขา และก้น
- คนที่ต้องการ ฟื้นฟูผิวหน้า กระตุ้นคอลลาเจน กระชับรูขุมขน
- คุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหา หน้าท้องหย่อนคล้อย ต้องการกระชับผิว
Thermage ไม่เหมาะกับใครบ้าง ?
- ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ที่ต้องใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (pacemaker) อย่างเช่น โรคหัวใจ
Thermage / Hifu / Ulthera ต่างกันอย่างไร ?
- Thermage หรือ เทอร์มาจ ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงในการสร้างความร้อน โดยจะส่งพลังงานเป็นวงกว้างในลักษณะจุดพลังงานก้อนใหญ่ที่ลงลึกครอบคลุมถึงผิวหนังชั้นไขมัน เด่นในเรื่องการลดไขมันส่วนเกิน บริเวณใต้ชั้นผิว ยกกระชับและช่วยให้ผิวเรียบเนียน
- Ulthera หรือ อัลเทอร่า ใช้คลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูง MFU-V ในการสร้างความร้อน ส่งพลังงานในลักษณะจุดไข่ปลาเรียงต่อกันเป็นเส้น ๆ ลงลึกได้ถึงชั้นเนื้อเยื่อ SMAS ทำให้สามารถยกกระชับผิวได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ต้องการมีกรอบหน้าชัด
- HIFU หรือ ไฮฟู่ เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ ส่งพลังงานในลักษณะจุดพลังงานปานกลาง สามารถยิงเรียงเป็นเส้นลงลึกได้ถึงชั้นเนื้อเยื่อ SMAS เพื่อยกกระชับผิวตามแนวที่ต้องการได้ มีพลังงานคงที่ อยู่ได้นาน เจ็บน้อย ราคาถูกคุ้มค่า เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ
Thermage ทำส่วนไหน ช่วยอะไรได้บ้าง ?
- ใบหน้า : ยกกระชับได้ทั่วใบหน้าและลำคอ
ช่วยลดแก้มและเหนียง เพิ่มกรอบหน้าชัด ทำให้ใบหน้าเรียวกระชับ
- รอบดวงตา : ผิวรอบดวงตา คิ้ว หางตา หนังตา ผิวเปลือกตา
ช่วยให้ผิวรอบดวงตากระชับ รวมถึงยกคิ้วให้ได้รูป
- ลำตัว : บริเวณต้นแขน หลังมือ หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ก้น
ช่วยทำให้กระชับขึ้น ทั่งส่วนที่เป็นผิวเปลือกส้ม และผิวหย่อนคล้อย
Thermage สามารถทำได้ทั้งบนใบหน้า ลำตัว รวมถึงเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ บริเวณรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี โดยจำนวนช็อตที่ใช้จะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำ สภาพผิว และการประเมินของแพทย์
Thermage อันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?
การทำ Thermage ไม่อันตรายค่ะ ถือเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย เพราะใช้พลังงานคลื่นความร้อนที่ไม่ส่งผลอันตรายใด ๆ ต่อผิวหนัง ในกรณีเกิด
- อาการบวมแดง รอยแดง จะเป็นอาการปกติ เกิดเพียงชั่วคราว และหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง
- อาการระบมใต้ผิว หลังทำจะรู้สึกเสียว ๆ ใต้ผิว พบได้ทั่วไป สามารถหายได้เองใน 3-10 วัน
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นส่วนมากเกิดจากการใช้เครื่อง Thermage ปลอม เช่น
- การใช้เครื่องปลอม ที่ไม่ใช่เครื่อง Thermage แท้ที่ได้มาตรฐาน อาจทำแล้วไม่เห็นผล เสียเงิน เสียเวลาและเสียความรู้สึก
- ในกรณีร้ายแรง ผิวหน้าอาจจะเกิดรอยบุ๋ม ขรุขระ เกิดรอยดำ ผิวหน้าไหม้ อักเสบ หน้าเสียทรง
ดังนั้นก่อนทำ Thermage ต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และต้องมั่นใจก่อนว่าคลินิกนั้น ๆ ใช้เครื่องแท้ ที่ได้มาตรฐานหรือไม่
Thermage นิยมใช้รุ่นไหนบ้าง แตกต่างกันอย่างไร ?
Thermage ที่นิยมใช้ในประเทศไทยมี 2 รุ่น คือ Thermage CPT และ Thermage FLX
เป็นเครื่องยกกระชับเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกัน ดังนี้
Thermage CPT (2009) : เป็นเครื่องรุ่นเก่า ที่ไม่มีระบบการคำนวณพลังงานความร้อนใต้ผิว
ขณะทำจะรู้สึกเจ็บ ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงในการทำ
Thermage FLX (2018) : เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างตรงจุด มีพลังงานคงที่ และใช้จำนวน Shot น้อยกว่ารุ่นเก่า มีหัวยิง Integrated cooling ขนาดใหญ่กว่า มีการปล่อยความเย็นออกมาเป็นระยะ ๆ เพื่อไม่ทำให้ผิวไหม้ ขณะทำมีระบบสั่น ทำแล้วรู้สึกสบายและเจ็บน้อย ใช้เวลาน้อยกว่ารุ่นเก่าประมาณ 25%
จะเห็นได้ว่า Thermage มีการพัฒนานำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยเสริมให้เรายกกระชับผิวได้สะดวกสบายและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
Thermage เจ็บไหม ?
ในการทำ Thermage ความเจ็บของแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ ในบางคนก็บอกว่าไม่รู้สึกเจ็บหรือเจ็บแต่อยู่ในระดับที่ทนได้ แต่ข้อดีของเครื่อง Thermage FLX มีระบบ Cooling effect เพื่อป้องกันผิวไหม้ ทำให้ความเจ็บลดน้อยลง ช่วยเพิ่มความสบายให้กับผิวในขณะทำ ก่อนทำมีการแปะยาชาช่วยลดความเจ็บอีกด้วย
ขั้นตอนการทำ Thermage
- ก่อนทำ Thermage
- ทำความสะอาดบริเวณผิวที่ต้องการทำ
- แปะยาชาผิวบริเวณที่ต้องการทำ ก่อนทำประมาณ 30 นาที
- แพทย์จะนำหัวของเครื่องมือ Thermage แนบชิดกับผิวและยิงกระตุ้นตามจำนวน shot ที่ประเมินในแต่เคสอย่างเหมาะสม
- แพทย์ใช้เวลาในการทำ Thermage ประมาณ 45-90 นาที (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังและตำแหน่งที่ต้องกระตุ้น)
- ขณะทำ Thermage
รู้สึกมีความอุ่นที่ผิว (Warm But Tolerate) อยู่ในระดับทนเจ็บได้ เนื่องจากพลังงานจะส่งเข้าไปในทุกชั้นของผิว การทำ Thermage ให้ได้ผลดี จะต้องทนเจ็บได้ระดับหนึ่งถึงจะได้ผลดีและคุ้มค่า จำไว้ว่ายิ่งเจ็บยิ่งสวยค่ะ
- หลังทำ Thermage
- ผิวอาจมีรอยแดง หรือมีอาการหน้าบวมเล็กน้อย พบได้ทั่วไป สามารถหายได้เอง ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ตามปกติ
- พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ๆ หลังทำประมาณ 1 อาทิตย์ และทาครีมกันแดดทุกครั้ง
สำหรับใครที่อยากเห็นผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นานขึ้น หลังทำ Thermage อย่าลืมทำตามคำแนะนำของแพทย์ด้วยนะคะ
สรุป
Thermage ถือเป็นตัวช่วยที่ดีและคุ้มค่าในการยกกระชับ กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวกระชับไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้าและลำตัว โดยที่ไม่ต้องกลัวเจ็บ เพราะเครื่องมีระบบป้องกันผิวไหม้และมีการแปะยาชาก่อนทำ ตัวเครื่องสามารถปล่อยพลังงานได้ลึกไปถึงชั้นไขมัน ทำให้ผิวแน่นกระชับ อยู่ได้นาน มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก หลังทำไม่ต้องพักฟื้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่องมือแท้ และทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
