เมโสหน้าใส หรือเรียกอีกอย่างว่า Mesotheraphy เป็นวิธีการบำรุงผิวเร่งด่วนโดยการนำเอาวิตามินและสารสกัดต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อผิว มาฉีดเข้าไปในผิวชั้นกลางโดยตรง เพื่อบำรุงและฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น ทำให้ผิวกระจ่างหน้าใส เห็นผลไวกว่าการทาครีม เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการเห็นผลลัพธ์เร่งด่วน
สำหรับคนที่ต้องการบำรุงผิวให้มีความกระจ่างใสขึ้น สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เมโสหน้าใส ว่าช่วยอะไรได้บ้าง เหมาะกับใคร ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล อันตรายไหม ราคาเท่าไหร่ เลือกยี่ห้อไหนดี ติดตามอ่านได้ในบทความด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
เมโสหน้าใส คืออะไร ?
เมโสหน้าใส หรือ เมโสเทอราปี (Mesotheraphy) คือ การนำวิตามินหรือสารบำรุงที่มีประโยชน์ต่อผิว ตัวอย่างเช่น vitamin A B C E, Transamin, Glutatione, คอลลาเจน และ โคเอนไซม์ มาฉีดเข้าไปในชั้นกลางของผิว (หรือเรียกว่า meso) โดยตรง ทำให้สามารถเห็นผลไวกว่าการทาครีมบำรุงทั่วไป โดยหลังฉีดจะเริ่มเห็นผลภายใน 3 วัน เห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน จากปกติที่อาจใช้เวลานานเป็นเดือน
เมโสหน้าใส มีเทคนิคการฉีดแบบไหนบ้าง ?
เทคนิคการฉีดเมโส มี 2 เทคนิค คือ
- เทคนิคการฉีดเมโสแบบสะกิด เป็นวิธีฉีดแบบเดิม เรียกว่า mesotheraphy เป็นการใช้เข็มสะกิดตัวยาเมโสเข้าไปในผิวชั้นตื้น กระจายตัวเป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วทั้งใบหน้า
ข้อดี : ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปด้วยในตัว
ข้อเสีย : เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ง่าย หากระหว่างฉีดไม่มีการดูแลความสะอาดมากพอ จะเกิดการติดเชื้อ อักเสบ เป็นผื่นแดง ซึ่งส่วนใหญ่เห็นได้ตามข่าวที่มักจะเกิดกับคนที่ซื้อเมโสมาฉีดเอง ซึ่งถือว่าอันตรายมาก
ผลข้างเคียงการฉีดเมโสที่มีขั้นตอนไม่สะอาด ทำให้เกิดผื่นแดง
- เทคนิคการฉีดเมโสแบบ 16 จุด เป็นวิธีที่นิยมในปัจจุบัน เป็นการฉีดตัวยาเมโสตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง 16 จุด
ข้อดี : ช่วยให้ตัวยาเมโสกระจายไปทั่วทั้งใบหน้า ตัวยาออกฤทธิ์ได้ยาวนาน มีรอยช้ำแผลน้อย
ข้อเสีย : อาจเกิดรอยเข็มเล็ก ๆ และมีอาการบวมเข็ม ซึ่งไม่เป็นอันตราย สามารถหายได้เอง
เมโสหน้าใส ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
การฉีดเมโสหน้าใส สามารถช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวได้ ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น แข็งแรง ดูสุขภาพดี
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว
- ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน
- ช่วยลดฝ้า ลดกระ ลดรูขุมขนกว้าง
- ช่วยฟื้นฟูผิวจากสารพิษ เช่น ผื่นแพ้ สิว ผิวติดสาร
ปัญหาผิวหน้า ช่วยฟื้นฟูด้วยการฉีดเมโสหน้าใส
เมโสหน้าใส เหมาะกับใครบ้าง ?
การฉีดเมโสหน้าใส จะเหมือนเป็นการเติมสารอาหารให้ผิว ภายในเวลาอันรวดเร็ว จึงเหมาะกับ
- คนที่ต้องการบำรุงให้ผิวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องทาครีม
- คนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย
- คนที่ต้องไปออกงานสำคัญ ต้องการฟื้นฟูผิวเสียเร่งด่วน
- คนที่มีผิวเสียมาก ต้องการเห็นผลลัพธ์ไวและอยู่ได้นานขึ้น สามารถฉีดถี่ขึ้น 2 ครั้ง/สัปดาห์ ได้
ฉีดเมโสหน้าใส ดีไหม ?
ถ้าถามว่า การฉีดเมโสหน้าใสดีไหม จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคน บางคนเมื่อฉีดแล้วจะเห็นผลไว บางคนอาจจะต้องใช้เวลา ดังนั้นก่อนฉีดเมโสหน้าใส ควรให้หมอประเมินก่อนว่าเหมาะกับการใช้ตัวยาแบบไหน สูตรไหน
เมโสหน้าใส มีกี่สูตร ?
ที่จริงแล้วการฉีดเมโสหน้าใสนั้นมีหลายสูตร เนื่องจากตัวยาเพียงตัวเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาใบหน้าได้ครอบคลุม แต่ละคนก็มีปัญหาผิวแตกต่างกันไป จึงควรให้แพทย์ช่วยตรวจประเมินใบหน้า เพื่อปรับสูตรเมโสหน้าใสให้เหมาะกับสภาพผิว ซึ่งตัวยาเมโสที่นิยมฉีดหลัก ๆ มี 3 สูตร ได้แก่
- สูตรเน้นหน้าขาวกระจ่างใสขึ้น แก้ไขปัญหาผิวหมองคล้ำ
- สูตรเน้นหน้าใส เพิ่มความชุ่มชื้น แก้ไขปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ เพิ่มคอลลาเจน
- สูตรเน้นลดสิว-แก้ผื่น แก้ไขปัญหาผิวอักเสบ ผื่นแพ้ ผิวติดสเตียรอยด์
เมโสหน้าใส มีกี่ยี่ห้อ ราคาเท่าไหร่ ใช้ยี่ห้อไหนดี ?
เมโสหน้าใส มีหลายยี่ห้อ มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ก่อนฉีดหมอจะเป็นผู้ตรวจประเมินสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล และแนะนำว่าควรใช้เมโสหน้าใส ยี่ห้อไหน
จุดเด่นและราคาของเมโสแต่ละยี่ห้อ
- Made Collagen เน้นลดสิว ลดผื่น
ราคา 2,500.- / ครั้ง และ 9,900.- / คอร์ส 5 ครั้ง
- Filorga เน้นความขาว ใส ลดจุดด่างดำ เห็นผลเร็ว
ราคา 5,000.- / ครั้ง และ 20,000.- / คอร์ส 5 ครั้ง
- Alpha arbutin เน้นลดฝ้าโดยตรง
ราคา 3,500.- / ครั้ง และ 15,000.- / คอร์ส 5 ครั้ง
- Tensonez เน้นผิวขาว ใส ลดฝ้า
ราคา 3,500.- / ครั้ง และ 15,000.- / คอร์ส 5 ครั้ง
- Depigment เน้นลดฝ้า ค่อนข้างแสบ
ราคา 3,500.- / ครั้ง และ 15,000.- / คอร์ส 5 ครั้ง
- Neo-Glutanex Glow เน้นลดฝ้า กระ รอยสิว ลดริ้วรอย ฟื้นฟูใต้ตาคล้ำ
ราคา 3,500.- / ครั้ง และ 15,000.- / คอร์ส 5 ครั้ง
เมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน ต้องทำบ่อยแค่ไหน ?
ในการฉีดเมโสหน้าใส สามารถเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรก เห็นผลชัดเจนขึ้นใน 3 วัน แต่หากฉีดต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ประมาณ 1 เดือน (4 ครั้ง) จะเห็นผลลัพธ์ได้เต็มที่ ซึ่งถ้าผิวเริ่มดีขึ้นแบบคงที่แล้ว
ไม่ต้องฉีดต่อเนื่องก็จะอยู่ได้ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของแต่ละบุคคลด้วย
เมโสหน้าใส อันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?
การฉีดเมโสหน้าใส ไม่อันตราย เพราะตัวยาเมโสที่ฉีดเข้าไปในผิว เป็นวิตามินและสารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีประโยชน์ต่อผิว ทำให้ไม่มีสารตกค้าง และจะสลายไปเองโดยธรรมชาติ
ดังนั้น จึงไม่มีผลข้างเคียงที่เกิดจากตัวยา แต่อาจจะมีผลข้างเคียงที่เกิดจากรอยเข็มตามใบหน้าที่เกิดระหว่างฉีด ซึ่งไม่อันตราย สามารถหายได้เองภายใน 1-3 วัน
แต่หากฉีดไปแล้วมีอาการผิดปกติ มีผื่นแดง อาจมีสาเหตุมาจาก
- การอักเสบติดเชื้อ
- การแพ้ยาชา
ในส่วนของผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น ผิวบางลง ผิวไวต่อแดด เกิดริ้วรอยก่อนวัย มักมาจากการฉีดเมโสหน้าใสผิดวิธี ได้แก่
- การฉีดกับหมอกระเป๋า
- ซื้อตัวยาเมโสมาฉีดเอง
- ใช้ตัวยาเมโสหน้าใสปลอมไม่ผ่าน อย.
ก่อนฉีดเมโสหน้าใส เตรียมตัวอย่างไร ไปทำที่ไหนดี ?
ก่อนตัดสินใจไปฉีดเมโสหน้าใส แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดเมโสหน้าใส วิธีการดูเมโสของแท้ยี่ห้อต่าง ๆ
- เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน เช่น มีป้ายชื่อ เลขใบอนุญาต 11 หลัก มีสภาพแวดล้อมที่สะอาด และมีไฟส่องสว่าง
- เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ก่อนฉีดเมโสหน้าใส มีการแกะกล่องตัวยาให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าใช้ตัวยาเมโสแท้ ผ่านการรับรองของ อย.
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ เป็นคนให้คำแนะนำและให้บริการ ในการฉีดเมโสหน้าใส
สรุป
เมโสหน้าใส ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการช่วยบำรุง ฟื้นฟูผิว เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการ บำรุงผิวแบบเร่งด่วน อีกทั้งการฉีดเมโสหน้าใสยังมีความปลอดภัย หากเลือกทำกับคลินิกที่น่าเชื่อถือมีแพทยที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ใช้ตัวยาเมโสแท้ ก็สามารถมั่นใจในผลลัพธ์ที่ดีหลังฉีดเมโสหน้าใส
