ฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้ได้ปากสวยเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรก ควรรู้อะไรบ้าง ?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก

หาก “ คิ้ว ”  เรียกว่าเป็นมงกุฎของใบหน้า “ ปาก ” ก็ถือว่าเป็นเพชรเม็ดหนึ่งที่ส่องประกายสีสันความมีเสน่ห์ออกมาบนใบหน้าเช่นเดียวกัน ถ้าใครอยากจะมีปากที่สวยอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ปาก ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยเพิ่มลุคเซ็กซี่ หรือลุคน่ารักสดใส

ใครที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์ปาก แล้วได้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ ไม่ควรมองข้ามสิ่งที่เราจะแนะนำในบทความนี้ เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาคุ้มค่าเห็นผลและปลอดภัยมากที่สุดค่ะ 

สารบัญ ฟิลเลอร์ปาก


1.ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่ในวงการทางแพทย์เรียกสารชนิดนี้ว่า “ ฟิลเลอร์ ” ซึ่งมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ สามารถนำมาฉีดบริเวณริมฝีปากเพื่อเพิ่มเนื้อและปรับขนาดโครงสร้างปาก ให้ดูมีความอวบอิ่ม ชุ่มชื้น เต่งตึงขึ้น 

ก่อน-หลังฟิลเลอร์ปาก-ปากสมส่วน-มีรูปทรงสวยงามขึ้น
ก่อน-หลังฟิลเลอร์ปาก แก้ปากบาง ให้ดูอวบอิ่มขึ้น

นอกจากความสวยงามแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ปากยังช่วยให้ริมฝีปากดูสุขภาพดีได้ โดยสามารถแก้ปัญหาปากแห้ง ปากลอก ให้ดูชุ่มชื้นขึ้น รวมถึงยังช่วยเสริมบุคลิกภาพในคนที่มีปัญหาปากคว่ำ ทำให้ดูหน้าบึ้ง หน้าดุ ใบหน้าไม่สดใส รูปปากไม่สมดุล การฉีดฟิลเลอร์ปากก็สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ โดยการฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก็จะทำให้หน้ากลับมาดูสดใส เป็นมิตรมากยิ่งขึ้น สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้นนาน พร้อมออกไปใช้ชีวิตในวันต่อไปได้เลยค่ะ

ก่อน-หลังฟิลเลอร์ปาก-แก้ปากบาง-เป็นปากกระจับ

2.ฟิลเลอร์ปาก  ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?

  • แก้ปัญหาปากแห้ง ปากเป็นร่อง ไม่ต้องเติมลิปสติกบ่อยเหมือนอย่างเคย
  • แก้ปัญหาปากลอก ให้กลับมา ดูชุ่มชื้น อวบอิ่มเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
  • ปรับสัดส่วนรูปทรงปากให้สวยงามรับกับใบหน้า และปรับรูปหน้าให้ดูสวยขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหามุมปากตก ปากคว่ำ ที่ทำให้หน้าดูดุ ด้วยการฉีดยกมุมปากขึ้น ทำให้รูปปากยิ้ม
  • เสริมโหงวเฮ้งปาก ในคนที่ปากบาง ปากไม่สมส่วน (โหงวเฮ้งปากที่ดีคือ เป็นกระจับอิ่มเต็ม)

3.ฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม ? 

ไม่อันตรายค่ะ หากฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ การฉีดฟิลเลอร์ปากก็จะมีความปลอดภัย 100% ถึงแม้ในบริเวณริมฝีปากจะมีเส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ จำนวนมาก แต่สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยการใช้เทคนิคเข็มแหลมได้ เนื่องจากเส้นเลือดหลักที่อยู่ลึกลงไปมีเพียงเส้นเดียวเท่านั้น จึงทำให้ไม่เกิดปัญหาเมื่อฉีดฟิลเลอร์ปากเข้าไปในบริเวณนั้น 

ฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม 1 ซ้าย
ฟิลเลอร์ปาก-อันตรายไหม

แต่การฉีดฟิลเลอร์ปากจะเกิดอันตรายได้ หากเผลอทำสิ่งเหล่านี้

  1. เลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
  2. ฉีดฟิลเลอร์ปากกับหมอกระเป๋า เช่น มีการนัดหมายให้ไปฉีดตามบ้าน หรือคอนโด 
  3. ใช้ฟิลเลอร์ปลอม ที่จะทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา จนเป็นเหตุให้ต้องไปขูดฟิลเลอร์ออก

4.ฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ? 

อยู่ได้นานถึง 6 เดือน ไปจนถึง 18 เดือนค่ะ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ปากที่เลือกใช้ เนื่องจากมียี่ห้อฟิลเลอร์หลายรุ่น แต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของระยะเวลา 

หากอยากให้ฟิลเลอร์อยู่กับเราไปนาน ๆ ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากของเราเองด้วย เพราะปากเป็นจุดที่ขยับบ่อย ต้องใช้ในการกินทุกวัน และโดนอาจจะความร้อนได้ง่าย ตัวอย่างเช่น การทานอาหารร้อน ๆ จึงทำให้ฟิลเลอร์ มีโอกาสสลายเร็วกว่าจุดอื่นบนใบหน้า 

ดังนั้นหลังฉีดฟิลเลอร์ปากแนะนำให้เลี่ยงเครื่องดื่มร้อน ๆ รวมถึงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด แนะนำควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ การดื่มน้ำเยอะจะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้น และอยู่ได้นานขึ้นค่ะ


5.ฟิลเลอร์ปาก ต้องใช้กี่ CC ? 

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ใช้กี่ cc
  • การฉีดฟิลเลอร์ปากปริมาณเพียงแค่ 1 cc โดยปกติแล้ว คนที่อายุยังน้อย มีปัญหาปากไม่มาก ปริมาณเพียงแค่ 1 cc ต่อครั้ง ก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลง เพียงพอต่อการเติมริมฝีปากให้ดูสวย อวบอิ่มขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้วค่ะ
  • ส่วนในกรณีที่ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ 2 cc เนื่องจากเรามีอายุมากขึ้น มีปัญหาปากบาง ปากเป็นร่อง หรือบางคนที่ต้องการจะเพิ่มปริมาณวอลลุ่มให้มากขึ้น (ปากสาย ฝอ) ก็จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์เป็น 2 cc เพื่อที่จะทำให้ได้ริมฝีปากที่เต็มและอวบอิ่มมากยิ่งขึ้นค่ะ 

ส่วนใครที่ไม่รู้ 1 cc เท่ากับเท่าไร ? เทียบง่าย ๆ คือ ปริมาณฟิลเลอร์ปาก 1 cc จะมีปริมาณขนาดใกล้เคียงพอ ๆ กับเหรียญ 1 บาทของเรานั่นเองค่ะ 


6.ฟิลเลอร์ปาก ควรใช้ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดีที่สุด ?

ยี่ห้อในการฉีดฟิลเลอร์ปาก มีหลากหลายยี่ห้อ หลายรุ่น ออกแบบเพื่อนำมาใช้ให้เหมาะกับปัญหาของแต่ละคน และความถนัดของแพทย์ ในการเลือกควรเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่าน อย. ตัวอย่างเช่น

รวมฟิลเลอร์ปาก
  • ฟิลเลอร์ Juvederm 
  • Juvederm Ultra Plus เนื้อนิ่ม ฟูมาก เหมาะกับการฉีดปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง อยู่ได้ 12 เดือน
  • Juvederm Voluma เนื้อแข็ง ฟูกลาง ๆ อยู่ได้นานสุด เหมาะกับฉีดปากอวบอิ่ม อยู่ได้ 18 เดือน
  • Juvederm Volift เนื้อนิ่ม ละเอียด ยืดหยุ่นสูง เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้ 12 เดือน
  • Juvederm Volite เนื้อละเอียด เหมาะกับฉีดผิวปากชุ่มชื้น อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ได้ 8-12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ Restylane 
  • Restylane Kysse เนื้อละเอียดแต่คงตัว ให้ขอบปากชัด ออกแบบมาเพื่อปากโดยเฉพาะ อยู่ได้ 12 เดือน
  • Restylane Vital Light เนื้อละเอียด เหมาะกับคนที่อยากแก้ไขปากแห้ง โดยไม่เพิ่มความอวบอิ่ม อยู่ได้ 6-12 เดือน
  • Restylane Volyme เนื้อนิ่มกลาง ๆ ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำ เหมาะฉีดมุมปาก อยู่ได้ 18 เดือน
  • Restylane Refyne เนื้อนิ่ม ยืดหยุ่น เติมปากอวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ อยู่ได้ 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ Belotero 
  • Belotero Volume เนื้อแน่น อยู่ทรง ใช้เพิ่ม volume ให้รูปปากดูอวบอิ่ม สายฝอ อยู่ได้ 12-18 เดือน

7.ฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี ?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี_
ขอบคุณรูปภาพจาก V Square Clinic
  1. เลือกคลินิกที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตัวอย่างเช่น มีการติดใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล มีป้ายชื่อคลินิก พร้อมกับเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ติดในจุดที่มองเห็นได้ชัด
  2. สภาพบรรยากาศภายในของคลินิก ต้องดูกว้างขวาง สะอาด สว่าง ปลอดโปร่ง เครื่องมืออุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ครบ พร้อมใช้งาน
  3. สามารถเช็คผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ได้ว่าแท้ มีช่องทางติดต่อบริษัทนำเข้า ก่อนฉีด ตรวจดูกล่องและขวดบรรจุภัณฑ์ได้ทุกครั้ง
  4. แพทย์มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถให้คำแนะนำ ออกแบบทรงปากที่เหมาะสมกับใบหน้าของเราได้ มีเคสตัวอย่าง และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
  5. คลินิกนั้นมีรูปภาพและวิดีโอรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง อยู่ในสื่อที่เป็นกลาง เชื่อถือได้ ไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ 
  6. คลินิกนั้นมีช่องทางติดต่อง่าย มีการนัดหมายติดตามผลหลังฉีดอย่างสม่ำเสมอ ผ่าน Line@ Facebook หรือเบอร์โทรศัพท์ หากเรามีปัญหาหรือข้อสงสัยสามารถสอบถามแพทย์เจ้าของเคสได้โดยตรง

8.การเตรียมตัว ก่อนไปฉีดฟิลเลอร์ปาก ?

  1. ควรศึกษาหาข้อมูลโดยละเอียดและเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ก่อนไปฉีดฟิลเลอร์ปาก
  2. ศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้ เช่น หาข้อมูลการดูฟิลเลอร์แท้ในแต่ละยี่ห้อ
  3. พยายามหาดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในคลินิกนั้น ๆ ที่เลือก โดยละเอียด
  4. งด ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน ยา NSAIDs เช่น ibruprofen, diclofenac, ponstan รวมถึงวิตามิน St.Johns Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E ก่อนทำ 1 สัปดาห์
  5. งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
  6. งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เหนื่อยหอบ
  7. เตรียมข้อมูลต่าง ๆ หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่กินเป็นประจำ เพื่อนำไปแจ้งกับแพทย์ก่อนทำหัตถการและประเมินความปลอดภัยก่อนฉีด

สรุป 

สำหรับคนที่อยากมีรูปปากสวยงามเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ อย่าลืมทั้ง 8 ข้อที่เราแนะนำ รวมถึงควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากโดยละเอียด เพื่อจะได้รู้ทัน ป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงเกิดข้อผิดพลาด ไม่เสี่ยงถูกหลอกและได้ผลลัพธ์หลังฉีดสวยงามตามที่คาดหวังค่ะ