
ทำ Hifu กี่ช็อต ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ? เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะราคาของการทำ Hifu นั้นขึ้นอยู่กับจำนวนของช็อตที่ใช้ยิงด้วย หลายคนก็เลยต้องการประเมินราคาก่อนที่จะไปทำ เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ที่ดีหลังทำ Hifu ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด
หากใครที่สนใจการทำ Hifu อยากรู้ว่าควรทำ Hifu กี่ช็อต/ไลน์ ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล มีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง มีแนวทางการดูแลตัวเองหลังทำ Hifu อย่างไร เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ในบทความนี้มีคำแนะนำเพื่อสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจก่อนทำ Hifu ค่ะ
Hifu ควรทํากี่ช็อต (ไลน์) ?
การจะตอบคำถาม Hifu ควรทํากี่ช็อต (ไลน์) ? ได้นั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของเราเลยค่ะ เพราะปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทั้งปริมาณไขมันและความหย่อนคล้อยของผิว โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้อย่างละเอียด เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เนื่องจาก Hifu เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวที่มีหัวยิงหลายหัว ตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้น ๆ
- หัวยิงความลึก 1.5-2.0 mm จะใช้กับผิวชั้นบน ช่วยเรื่องการลดริ้วรอยรอบดวงตา ระหว่างคิ้ว และหน้าผาก
- หัวยิงความลึก 3.0 mm จะใช้กับผิวชั้นกลาง ช่วยยกกระชับใบหน้า กระตุ้นคอลลาเจนบริเวณแก้ม
- หัวยิงความลึก 4.5 mm จะใช้กับผิวชั้น SMAS ช่วยยกแก้ม เก็บกรอบหน้า ลดร่องแก้ม ลดเหนียง

ดังนั้น ก่อนทำ ควรให้แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงประเมินปัญหาผิว
ขอบคุณข้อมูลภาพจาก V Square Clinic
แต่ถ้าให้ประมาณตามจำนวนช็อต(ไลน์) เพื่อเป็นแนวทางในการคำนวณงบประมาณ จำนวนช็อตที่ใช้ยิงในแต่ละตำแหน่ง จะประมาณได้ ดังนี้
- บริเวณ แก้ม หรือ เหนียง ประมาณ 100 ช็อต(ไลน์)
- บริเวณ แก้ม + เหนียง ประมาณ 300 ช็อต(ไลน์)
- บริเวณ ใต้ตา และ ร่องแก้ม ประมาณ 300 ช็อต(ไลน์)
- บริเวณ ทั่วหน้า หรือ ต้นแขน ประมาณ 700 ช็อต(ไลน์)
- บริเวณ ทั่วหน้า + คอ หรือ ต้นขา ประมาณ 1,000 ช็อต(ไลน์)

ขอบคุณข้อมูลภาพจาก V Square Clinic
บางคนอาจจะสงสัยว่าการนับจำนวนการยิงของ Hifu นั้น เรียกเป็น Shot ช็อต หรือ Line ไลน์ กันแน่ ?
จริง ๆ แล้ว การนับจำนวนการยิงของ Hifu เรียกเป็น Line ไลน์ แต่ที่นิยมเรียก Shot ช็อต เพราะติดปากจากการยิงเลเซอร์หน้าที่จะยิงเป็นช็อตค่ะ
อีกทั้งการนับไลน์ก็นับเป็น 1 Line = 15-25 จุดนะคะ บางคลินิกจะนับ 1 จุด = 1 line หรือเครื่อง Hifu บางยี่ห้อ จะนับ 1 จุด = 1 line อันนี้ก็ต้องระวังด้วย ถ้าเจอโปรบุฟเฟ่ต์ Hifu ไม่จำกัดช็อต ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าจะได้จำนวนช็อตน้อยกว่าความเป็นจริง คลินิกอาจใช้เครื่อง hifu เกรดต่ำ ไม่มีคุณภาพ ทำแล้วอาจไม่เห็นผล ดังนั้นอย่าเห็นแก่ของราคาถูก เพราะผลที่ได้อาจจะได้ไม่คุ้มเสีย
การต้องการให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวัง ก่อนทำ Hifu ควรหาข้อมูลคลินิกที่ออกโปร Hifu บุฟเฟ่ต์ว่าดีจริงตามคำกล่าวอ้างหรือไม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าตามราคาที่จ่ายไปค่ะ
Hifu ทำกี่ครั้งเห็นผล ?
ผลลัพธ์หลังทำ Hifu สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำประมาณ 20% ค่ะ และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้นในระยะเวลา 2-3 เดือน โดยที่ผลลัพธ์นั้นสามารถคงอยู่ได้นาน เป็นระยะเวลา 5-6 เดือน
แต่หากอยากให้อยู่นานขึ้นกว่าเดิมอีก สามารถทำ Hifu เพิ่มได้ โดยเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือน หลังจากที่ทำครั้งแรก เพื่อให้เซลล์ fibroblast สร้าง collagen ได้อย่างเต็มที่ก่อน เมื่อกลับมาทำอีกจึงจะได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า จากนั้นค่อยกลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์และป้องกันความหย่อยคล้อยในอนาคตค่ะ
Hifu ทำแล้วพบผลข้างเคียง อะไรบ้าง ?
ผลข้างเคียงที่พบได้เป็นปกติ เกิดจากการทำเครื่อง Hifu แท้ คือ
- อาการเจ็บ (ขณะทำ) จะมีความรู้สึกปวดบ้าง ตึงบ้าง ที่ชั้นใต้ผิว แสดงว่าคลื่นที่ยิงลงไปถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อทำให้ผิวยกกระชับ ยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งได้ผลดี
- มีรอยแดงเล็กน้อย เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป จะหายได้เองภายใน 1-2 ชั่วโมง สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หรือหากมีอาการเมื่อยตึงที่หน้า ก็ทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาได้
- อาการบวม เป็นอาการที่เกิดได้จากหลายปัจจัย ถ้าใช้เครื่อง Hifu เกรดดีพลังงานสูงและยิงเน้นบริเวณแก้มส่วนล่าง จะบวม 1-2 สัปดาห์เป็นปกติ ให้ผลลัพธ์ที่ดีในการยกกระชับและอยู่ได้นาน
ผลข้างเคียงที่พบแบบไม่ปกติ เกิดจากการทำเครื่อง Hifu ปลอม คือ
- หน้าเบี้ยว มักเกิดจากการเลือกใช้เครื่องที่ทำ Hifu ไม่ได้คุณภาพ ปล่อยความแรงของพลังงานไม่สม่ำเสมอ เมื่อพลังงานไม่สม่ำเสมอ ทำให้แพทย์ที่ทำ Hifu ไม่กล้ายิงพลังงานสูง ๆ เพราะกลัวว่าผิวจะไหม้ในบางจุดที่ยิง ทำให้ได้ผลน้อย หรือถ้ายิงพลังงานสูง ๆ ก็อาจทำให้หน้าไหม้ หน้าบวม และอาจโดนเส้นประสาททำให้หน้าเบี้ยวได้
ผลข้างเคียงจากการทำ Hifu ป้องกันได้อย่างไร ?
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยง ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น ก่อนทำ Hifu สิ่งที่ควรจะให้ความสำคัญ คือ
- การเลือกยี่ห้อเครื่องที่ใช้ ถือเป็นหัวใจหลักของการทำ Hifu เลยก็ว่าได้ โดยแนะนำเป็นเครื่อง Hifu Ultraformer III ที่สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างคงที่ สม่ำเสมอ และมีความปลอดภัยสูง

- ประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำ ซึ่งต้องผ่านการฝึกอบรม Training เพื่ออัปเดตความรู้ และเทคนิคต่าง ๆ ในใช้เครื่องมืออย่างต่อเนื่อง
- การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบได้ว่าใช้เครื่องยี่ห้ออะไร นำเข้าจากประเทศอะไร คุณภาพดีไหม ถ้าในกรณีมีโปร Hifu บุฟเฟ่ต์ ก็ต้องดูว่าดีจริงตามคำกล่าวอ้างหรือไม่
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Hifu เพื่อคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น
หลังทำ Hifu ผิวจะไม่ช้ำ หรือเป็นรอยแผล ในระหว่างนี้สามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยมีวิธีดูแลตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคงผลลัพธ์ได้ยาวนานขึ้น ดังนี้

- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเป็นประจำ เพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB จากแสงแดด
- หลีกเลี่ยงการออกไปเจอแสงแดด หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ประมาณ 1-2 อาทิตย์
- ทาโลชั่นบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหากมีอาการ เมื่อย ตึงบริเวณผิวที่ทำ สามารถทานยาแก้ปวดได้
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 8-10 แก้ว
- ทานอาหารเสริมคอลลาเจน วิตามิน โดยปรึกษากับแพทย์ที่ดูแลการทำ Hifu
- งดการกด ขัด ถู สครับผิวบริเวณใบหน้าแรง ๆ หรือสตรีมซาวด์น่า นวดหน้าด้วยความร้อนหลังทำ 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนใหม่
รีวิว Hifu






สรุป Hifu
จำนวนการยิง Hifu กี่ช็อต กี่ไลน์ ในแต่ละตำแหน่ง ที่ทำแล้วเห็นผล จากที่ได้แนะนำไปเป็นเพียงการประมาณเท่านั้น หากต้องการผลลัพธ์ที่ดี และมีความคุ้มค่า ควรให้แพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นผู้ประเมินปัญหาและสภาพผิว เพื่อแนะนำจำนวนการยิงที่เหมาะสม และที่สำคัญอย่าลืมให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เครื่อง Hifu แท้ กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงนำวิธีดูแลตัวเองไปปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีมีประสิทธิภาพและคงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น