
ฟิลเลอร์
ปัจจุบัน ฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา หรือบรรดา ดารา เซเลป ล้วนต่างเข้ารับบริการ เพราะเห็นผลลัพธ์ที่ดี สะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง หากเข้ารับการฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็ช่วยให้ใบหน้าเข้ารูป สัดส่วนสวยงาม แลดูอ่อนเยาว์ได้มากยิ่งขึ้น
ใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ และกำลังหาข้อมูล เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์มาแนะนำ ฉีดตำแหน่ง ไหนได้บ้าง ราคาเท่าไร อยู่ได้นานแค่ไหน รวมถึงข้อสงสัยต่าง ๆ เรารวบรวมมาตอบให้แล้วในบทความนี้
ฟิลเลอร์ คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มผิวประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid )หรือเรียกสั้น ๆ ว่า HA มีคุณสมบัติในกากรช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น เมื่อนำมาใช้ก็จะช่วยเติมเต็ม เสริมในชั้นผิวหนังให้ดูอิ่ม ฟู และเพิ่มความยืดหยุ่นใต้ผิวหนังให้เต่งตึงขึ้น ดูสุขภาพดี อ่อนเยาว์ เรียบเนียนและยังช่วยลดริ้วรอยได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ มีคุณสมบัติในการทดแทน ไขมัน เนื้อเยื่อ หรือกระดูกที่ยุบตัว ให้เต็มตื้น จึงช่วยเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้าได้ ทั้งร่องแก้มลึก เบ้าตาลึก ขมับยุบ ขมับตอบ ปรับแก้ไขรูปหน้าให้สวยงาม เช่น เติมคางให้ดูเรียวยาวขึ้นเป็นต้น
ฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหาใดได้บ้าง ?
✓ ช่วยเติมเต็มร่องลึก หรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง
✓ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
✓ ช่วยปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
✓ ช่วยลดริ้วรอย และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้
✓ ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึงขึ้น และดูอ่อนเยาว์
ที่สำคัญการฉีดฟิลเลอร์ยังเป็นหัตถการที่สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เพื่อปรับแก้ไขใบหน้าได้สวยงามมากยิ่งขึ้น เห็นผลลัพธ์เร็วและชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น การฉีดโบท็อก, ร้อยไหม หรือใช้เครื่องมือยกกระชับต่าง ๆ ซึ่งก่อนฉีดฟิลเลอร์หมอจะมีการประเมินปัญหา และเลือกวิธีที่เหมาะสมให้แล้วแต่บุคคล ซึ่งฟิลเลอร์สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัย
ฟิลเลอร์เหมาะกับใคร ?
- เหมาะกับผู้ที่ต้องปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน มีมิติ คงความอ่อนเยาว์ ดูสดใสมากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่ต้องลดริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่างๆ ของใบหน้า เช่น หน้าผาก รอบดวงตา ร่องลึกมุมปาก
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า ปรับแต่งรูปหน้า เช่น เติมริมฝีปาก แก้มส้ม
- ผู้ที่มีปัญหากังวลเรื่องรูขุมขน หลุมสิวบนใบหน้า
- ผู้ที่ต้องปรับเสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น เช่น หน้าผากหรือขมับ
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่ต้องการให้มีแผล ไม่อยากเสียเวลาพักฟื้น เพราะหลังการฉีดฟิลเลอร์สามารถใช้หน้าได้เลย
ฉีดฟิลเลอร์ บริเวณไหนได้บ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า โดยทั่วไปนิยม ฉีดฟิลเลอร์แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือส่วนที่มีการยุบตัวของกระดูกเมื่ออายุมากขึ้น เช่น
1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึก บริเวณใต้ตา ตัวการให้เบ้าตาลึก ตาโหล ใต้ตาหมองคล้ำ จากสาเหตุอายุที่มากขึ้น กระดูกใต้ตาจะยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ใบหน้าโดยรวมดูโทรม ไม่สดใส ดังนั้นบริเวณใต้ตาจึงเป็นจุดแรกที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลง

2. ฉีดฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะสามารถเห็นการเปลี่ยนได้ชัดเจนหลังทำ ช่วยให้หน้าเรียวสวย วีเชฟ แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย ได้ดี และเห็นผลเร็ว เหมาะกับผู้ที่มีฐานคางเดิมอยู่แล้ว เพราะการฉีดฟิลเลอร์คางช่วยให้คางยาวขึ้นได้ประมาณ 1 cm หากยาวกว่านี้จะดูไม่เป็นธรรมชาติ
3. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นวิธีการแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้ดี สามารถเติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น ใบหน้าจึงดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งสาเหตุของการเกิดการยุบตัวของกระดูกบนใบหน้า และการแสดงสีหน้ามาก ๆ จนแก้มเกิดรอยพับ เมื่อเวลาผ่านไปก็ลึกขึ้นเรื่อย ๆ การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องจึงเป็นการแก้ไขปัญหาร่องแก้มที่ตรงจุดและเห็นผลดี
4. ฟิลเลอร์ปาก
ในช่วงปีที่ผ่านมา การฉีดฟิลเลอร์ปากได้รับความนิยมมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนทรงปากทั้งฟิลเลอร์ปากสายฝอ ฟิลเลอร์ผปากเกาหลี หรือผู้ที่มีริมฝีปากบาง มีริ้วรอยบริเวณขอบปาก ปากแห้ง สามารถใช้การเติมฟิลเลอร์ปากช่วยได้ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน


5. ฟิลเลอร์ขมับ
สำหรับผู้ที่ต้องปรับโหวงเฮ้ง บริเวณขบับเป็นจุดที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะขมับที่อิ่มเต็มสามารถเชื่อมโยงกับความสำเร็จ การค้าขายหรือธุรกิจ โดยมีความเชื่อว่าจะทำให้รับทรัพย์มากขึ้น มีคนช่วยอุปถัมภ์ ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาขมับยุบ ขมับตอบจึงนิยมฉีดฟิลเลอร์ขมับ เพื่อให้ใบหน้าอิ่มเต็มรับทรัพย์
6. ฟิลเลอร์หน้าผาก
บริเวณหน้าผากเป็จอีกจุดที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ โดยเป็นการฉีดเติมหน้าผากให้โหนกนูน เรียบเนียนสวย นิยมในคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งและไม่อยากผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เห็นผลทันทีหลังทำ โดยส่วนใหญ่มักฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก กับฟิลเลอร์ขมับคู่กัน เพื่อให้เกิดความละมุนสวยงาม
7. ฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูก ปัจจุบันไม่ค่อยนิยม แต่ก็ยังมีผู้เข้ารับการฉีดอยู่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่หมอจะต้องประเมินเป็นเคส ๆ ไป ถ้าไม่มีฐานจมูกเลย อาจไม่แนะนำ การฉีดฟิลเลอร์จมูกจะเหมาะกับผู้ที่กลัวการผ่าตัดมาก ๆ ไม่มีเวลาพักฟื้นต้องการฉีดเพื่อให้สันจมูกหรือปลายจมูกคมขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังมีการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม การฉีดฟิเลอร์กรอบหน้า ที่เป็นการช่วยปรับทรงรูปหน้าให้ดูสมส่วน ซึ่งทั้งหมดควรอยู่ในการดูแลของหมอมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้า เพื่อที่จะช่วยแนะนำแนวทางการปรับรูปหน้าได้อย่างเหมาะสม
ฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละตำแหน่ง ต้องฉีดปริมาณเท่าใด ?
การฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุด แต่ละบุคคลอาจจะให้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่เท่ากัน แต่ละจุดต้องใช้ฟิลเลอร์กี่ CC หมอจะเป็นผู้ประเมินจากความลึกของปัญหา และความต้องการของเรา ในที่นี่จะขอแจ้งข้อมูลคร่าว ๆ ที่คนส่วนใหญ่ใช้กันดังนี้
- ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 cc
- ฟิลเลอร์หน้าผาก 3-5 cc
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม 1-2 cc
- ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 cc
- ฟิลเลอร์ปาก 1-2 cc
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-3 cc
- ฟิลเลอร์คาง 1-2 cc

ทั้งนี้ในการฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้ง ไม่จำเป็นต้องเติมทีเดียวปริมาณมาก ๆ สามารถทยอยเติมได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์ ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย และปรับโครงสร้างใบหน้า
- เห็นผลทันที ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองจากอย. ไม่ทำให้เกิดการแพ้ ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
- สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ หรือฉีดสลายออกโดยไม่เป็นอันตราย
- แก้ไขในจุดที่เป็นปัญหาได้อย่างแม่นยำ ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
- ใช้แก้ปัญหาในจุดที่ต้องการความละเอียดสูงได้ดี เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม
ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที ในบางคนอาจมีอาการบวม โดยเฉพาะคนผิวบาง โดยจะหายไปเองได้ใน 7 – 14 วัน และรอประมาณ 2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จึงจะยุบบวมเข้าที่และเห็นผลชัดเจน
ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ?
ในปัจจุบันมีฟิลเลอร์แท้ให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็จะมีรุ่นย่อย ๆ ที่มีคุณสมบัติต่างกัน ทั้งในจุดที่ฉีด ความคงตัวและระยะเวลา
ซึ่งหลัก ๆ ก็จะมีฟิลเลอร์จาก 3 ประเทศ ที่ได้รับความนิมยมจากทั่วโลก คือ
- Restylane (สวีเดน)
- Juvederm (อเมริกา
- Beloteroสวิต (เซอร์แลนด์)

วิธีการดูฟิลเลอร์แท้ที่ปลอดภัย สังเกตได้จากอะไรบ้าง ?
เพื่อความปลอดภัยคนไข้ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์ว่ามีจุดสังเกตอะไรบ้าง และมีบริษัทนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ สังเกตได้จาก
- เลขทะเบียนอย. ที่กล่อง
- มีเอกสารกำกับภาษาไทย
- เลข lot ที่กล่อง ซอง สติกเกอร์หรือหลอด ตรงกัน
- สามารถนำเลข lot โทรเช็คกับบริษัทนำเข้าได้
ฟิลเลอร์แท้ ราคา แพงไหม ?
การใช้ฟิลเลอร์ในการปรับรูปหน้า หากพูดถึงราคาถือว่าค่อนข้างสูง เฉลี่ยอยู่ที่ 1X,000 บาท/CC แต่หากเที่ยบความคุ้มค่าและความปลอดภัย ถือว่าคุ้ม เพราะโดยส่วนใหญ่จะคงผลลัพธ์ได้นาน 1 ปี หลังทำสามารถใช้หน้าได้เลย ไม่ต้องเจ็บตัว และเสียเวลาพักฟื้น
นอกจากนี้หลังฟิลเลอร์สลายหมดก็จะไม่ทำให้หน้าแก่ขึ้น แถมยังช่วยชะลออายุผิวให้แก่ช้าลง การฉีดฟิลเลอร์ จะทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีความชุ่มชื้นและมีน้ำหล่อเลี้ยงมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสตินบริเวณนั้นก็จะถูกสร้างขึ้นด้วย หลังฟิลเลอร์สลายหมดคอลลาเจนและอิลาสตินของร่างกายจะยังคงอยู่ สภาพผิวก็จะดีกว่าตอนที่ยังไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์
ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์
- ศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ เทคนิคในการทำ รวมไปถึงวิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า
- มียาและวิตามินบางชนิดที่ควรงดก่อนฉีดฟิลเลอร์ แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
- งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
- งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
- แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
- สามารถแจ้งเพื่อขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ และหมอจะฉีดยาชาในจุดนั้น ๆ ให้ด้วย
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม
- หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วย
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
- อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
- ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่ย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาดรวมการสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วย
อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์มีไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจมีรอยแดงจากเข็ม หายไปเองได้ใน 2-3 วัน และจะอาการบวมหลังฉีด เป็นปกติสามารถหายบวมไปเองได้ ประมาณ 7-14 วัน ฟิลเลอร์จะเข้าที่ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
เลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ?
เพราะในปัจจุบันมีคลินิกที่รับฉีดฟิลเลอร์จำนวนมาก เพื่อความปลอดภัยควรพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานปลอดภัยและคุ้มค่า ดังนั้นถ้ายังไม่รู้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี แนะนำให้พิจารณาตามนี้
- ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- แพทย์มีประสบการณ์ มีความน่าเชื่อถือ
- ฉีดโดยใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ราคาสมเหตุสมผล
- ดูรีวิวของลูกค้าที่เคยมาใช้บริการ จากแหล่งที่เป็นกลางเชื่อถือได้
- คลินิกต้องมีการติดตามผลหลังฉีดทุกครั้ง
- สถานที่ การเดินทาง ที่จอดรถมีความสะดวก สามารถนัดคิวล่วงหน้าได้
สรุป
การฟิลเลอร์เพื่อปรับหน้า และคืนความอ่อนเยาว์ถือเป็นตัวช่วยที่ดี คุ้มค่า และมีความปลอดภัยสูง เมื่อใช้ฟิลเลอร์เแท้ และฉีดโดยแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม และวิเคราะห์ปริมาณยาและตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ